การกลับมาสร้างต่อ หรือแทบจะเรียกว่าสร้างใหม่เลยก็ได้ เพราะเวลา 26 ปีผ่านไป นานมากเลยนะ ถึงได้มีการกลับมาอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ซีรีส์ออนไลน์ของ “เสียดาย” ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมในเรื่องยาเสพติดและปัญหาทางเพศของวัยรุ่น และสำหรับการกลับมารอบนี้บอกเลยว่า ไม่เสียดายที่ได้ดูซีรี่ย์ เพราะทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องเสียดายในปี 2537 เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงนะคะ วิถีชีวิตของตัวละครได้มาจากการ research ชีวิตของวัยรุ่นในสมัยนั้น 300 คนตามแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี จากเด็ก 300 คน ผู้สร้าง หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ที่ไม่แน่ใจว่าคนไปดูซีรี่ย์เพราะฝีมือหรือยศแก โดยที่ตัวหนังได้โฟกัสไปที่เด็กสาวกลุ่มหนึ่ง ใช้เรื่องราวของพวกเธอมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่สร้างกระแสในสมัยนั้น เสียดายว่าไม่มีคนไลค์ แชร์ เพราะไม่มีเฟซบุค แต่แน่นอนว่าเนื้อหาและใจความสำคัญของแต่ละชีวิต มันเกิดขึ้นจริงกับชีวิตของพวกเธอน่ะนะ
สำหรับซีรีส์ เสียดาย 2020 เป็นการดูซีรี่ย์ที่ผ่านการดองมายาวนาน 5 ปีกับการรอคอยของนักแสดง ทีมงานซีรีส์ รวมถึงคนดูซีรี่ย์ ที่รอแล้วรออีกจนลืมไปแล้วว่าจะได้ออกอากาศ เขียนบทและกำกับการแสดงโดย หม่อมราชวงศ์ ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ยังยึดแนวทางเดิม คือ เรื่องราวของเด็กสาว 4 คน แป๋ม ปู เดือน เงาะ ที่แต่ละคนมีปัญหาครอบครัวที่แตกต่างกัน อยากรู้อยากลอง และขาดความรักความเข้าใจจากครอบครัว มีเพียงมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่คอยช่วยเยียวยารอยแผลในใจของกันและกันได้ ทั้งสี่จึงสร้างโลกใหม่เพื่อหลีกหนีปัญหา และโลกใหม่ก็พาให้พวกเธอได้รู้จักกับ ยาเสพติด สิ่งที่คิดว่าจะช่วยปลอบประโลมพวกเธอได้
พวกเธอทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้ข้างหลัง จากนั้นก็ร่วมเผชิญชะตาชีวิตร่วมกัน จนสุดท้ายมันกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่พวกเธอไม่คาดคิด ก้าวเล็ก ๆ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในวันนั้น กลับเป็นก้าวที่ลึกและเวิ้งว้างที่สุดในวันหนึ่ง กว่าจะรู้ตัวก็ทำได้แค่เพียง “เสียดาย” ช่วงเวลาที่ควรจะสดใส เพราะมันแลกมาด้วยชีวิตทั้งชีวิตของพวกเธอ
อันดับแรกเลยต้องบอกว่าผู้เขียนเป็นคนที่เกิดในยุค 90s ซึ่งซีรีส์ออนไลน์เรื่องนี้จะพาเราย้อนกลับไปในยุคนั้น ยุคที่เราฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ตต์ ใช้เพจเจอร์ส่งข้อความ และมีการขอใจแลกเบอร์โทร บรรยากาศในเรื่องนี้จำลองออกมาได้ เหมือนเปี๊ยบ สามารถดึงความทรงจำเก่า ๆ ออกมาได้หมดเกลี้ยง ชนิดที่ภาพวันวานย้อนคืนมาเป็นฉาก ๆ และสารภาพเลยว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้ อิชั้นเคยทำมาเกือบทั้งหมดแล้ว เหลืออย่างเดียวที่ไม่ได้ทำคือ ก้าวขาเข้าไปในวังวนของยาเสพติดร้ายแรงเท่านั้นแหละ
ด้วยความที่ซีรีส์ทำการบ้านมาดี หรือจริง ๆ แล้วมันอาจจะอยู่ในความทรงจำของผู้สร้างเลยก็ว่าได้ ภาพที่เห็นจึงออกมาสมจริง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของบ้านในสมัยนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถย้อนกลับไปในสถานที่ยอดฮิตในสมัยนั้นได้จริง ๆ แต่บรรยากาศโดยรวมก็ทำให้ยืนอยู่ในคำว่าใช่ จนสร้างความรู้สึกย้อนอดีตได้ในทันที สำหรับใครที่เกิดในยุค 90s เชื่อว่าภาพอดีตต้องผุดกันขึ้นมาเป็นฉาก ๆ แน่นอน ถ้ายังไม่แก่จนลืมอะนะ ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่อง เนื้อหาที่ซีรีส์ต้องการจะสื่อ มันคือเนื้อหาเดียวกันกับ เสียดายเวอร์ชันภาพยนตร์ในปี 2537 เลย แต่สะเทือนใจขึ้น และทำให้เราอินกับความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวได้มากขึ้น ถ้าเราเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของพวกเขา และที่มากไปกว่านั้นก็คือซีรีส์เพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาอีกตัวหนึ่ง ที่ไม่มีในเวอร์ชันภาพยนตร์
เด็กวัย 15 ที่มีปัญหาครอบครัว สิ่งที่เขาจะคิดได้ในตอนนั้น มันไม่ไกลไปจากความต้องการของตัวเองกันหรอก อนาคตเป็นอย่างไรใครจะคิดออก สิ่งที่คิดได้ตอนนี้ก็คือ ฉันจะทำอย่างไรให้ฉันรู้สึกมีความสุขในตอนนี้ เพราะมันช่างเร่งด่วนและบีบคั้นเหลือเกิน เมื่อบ้านไม่ใช่สถานที่แห่งความสุขอีกต่อไป การไม่อยู่บ้านจึงเป็นทางออกเดียวที่คิดได้ และการอยู่กับเพื่อนที่รู้ใจก็ดีกว่าอะไรทั้งหมด
ซีรีส์มีการปูพื้นตัวละครแต่ละตัวให้เราค่อย ๆ เข้าใจความรู้สึกของเด็กแต่ละคนอย่างใจเย็น การดำเนินเรื่องไม่ได้รวดเร็วมากนักแต่ก็ไม่ได้ช้าจนเราอดใจรอไม่ไหว แต่เป็นการค่อย ๆ เผยให้เห็นปัญหาที่เด็กแต่ละคนเผชิญอย่างอยากจะให้เข้าใจพวกเขามากกว่า ณ จุดนี้ต้องบอกว่า ซีรีส์ออนไลน์เรื่องนี้มันสมจริงอย่างเป็นชีวิตทีเดียวละ
Leave a Reply